โรงเรียนนาคประสิทธิ์
มูลนิธิวัดบางช้างเหนือ
แผนการจัดการเรียนรู้
วิชา ภาษาอังกฤษ รหัส อ22102 ระดับ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อหน่วย Sports ชื่อเรื่อง Present Perfect
Tense จำนวน 1 ชั่วโมง
ชื่อครูผู้สอน นางสาวอัษฎาพร
ปวนเต็ม
1. สาระสำคัญ
Present
Perfect Tense
สามารถใช้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตดำเนินถึงปัจจุบันและอาจส่งผลถึงอนาคต
ซึ่งควรที่จะศึกษาเพื่อนำไปใช้ให้ถูกต้องกับเหตุการณ์
2. สมรรถนะประจำหน่วยการเรียนรู้
ความสามารถในการสื่อสาร
โดยการใช้ไวยากรณ์ Present Perfect Tense
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
3.1 จุดประสงค์ทั่วไป
1)
เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับ
Present Perfect Tense
2)
เพื่อให้มีความรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย
3.2 จุดประสงค์เชิงพฤติกรรม
1) เขียนประโยคโดยใช้ Present Perfect Tense ได้ถูกต้อง
4. สาระการเรียนรู้
4.1 ไวยากรณ์
Present Perfect Tense และการนำไปใช้ในการเขียน
5. กิจกรรมการเรียนรู้
5.1 ขั้นนำ
ให้นักเรียนเปิด Power point ให้ดูประโยคตัวอย่างแล้วช่วยกันวิเคราะห์ว่าเป็นลักษณะของไวยากรณ์ชนิดไหน
และให้นักเรียนสังเกตความแตกต่างของแต่ละประโยค และให้บอกความแตกต่างที่พบ
5.2 ขั้นดำเนินการสอน
1. ครูตั้งคำถามเกี่ยวกับPresent Perfect Tense ให้นักเรียนคิดและตอบคำถามจากประโยคตัวอย่าง
2. ครูแจกใบความรู้ที่ 1 เรื่อง Present Perfect Tense
3. ครูอธิบายถึงลักษณะของไวยากรณ์ Present Perfect Tense และให้นักเรียนสังเกตถึงลักษณะเด่นของไวยากรณ์
4. นักเรียนร่วมกันอภิปราย ไวยากรณ์ Present Perfect Tense
5. สุ่มนักเรียน เพื่อทดสอบความเข้าใจ ในไวยากรณ์ ครูให้คำแนะนำและอธิบายเพิ่มเติมให้เข้าใจมากขึ้น
6.
นักเรียนทำใบงาน เรื่อง Present Perfect Tense
5.3 ขั้นสรุป
ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยแบบฝึกหัด
6. สื่อการเรียนรู้
6.1 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง
Present Perfect Tense
6.2 ใบงานที่ 1 เรื่อง Present Perfect Tense
6.3 สื่อ Power Point เรื่อง Present Perfect Tense
7. หลักฐานการเรียนรู้
7.1 แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน เรื่อง Present Perfect Tense
7.2 ใบความรู้เรื่อง Present Perfect Tense
7.3 ใบงานเรื่อง Present Perfect Tense
8. การวัดและประเมินผล
8.1 แบบสังเกต
8.2 แบบประเมินใบงาน
8.3 แบบประเมินแบบทดสอบก่อนและหลังเรียน
ใบความรู้ที่ 1
รูปแบบของ Present Perfect Tense
|
โครงสร้าง
Subject +
has/have + Verb3
|
||||||
|
เส้นเวลา
|
หลักการใช้
Present Perfect Tense
1.
ใช้กับเหตุการณ์ที่
เกิดขึ้นในอดีต และดำเนินต่อเนื่องมายังปัจจุบัน และมีแนวโน้นที่จะดำเนินต่อไปได้อีกในอนาคต
เช่น
I have had a lot of toys.
ฉันมีของเล่นมากมาย (และอาจจะมีของเล่นเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต)
2.
ใช้กับเหตุการณ์ในอดีตที่
เกิดขึ้นและสิ้นสุดลงแล้ว แต่ยังส่งผลมายังปัจจุบัน เช่น
It has stopped raining.
ฝนหยุดตกแล้ว (แต่ถนนยังเปียกอยู่)
3.
ใช้พูดถึง
เหตุการณ์หรือการกระทำที่เกิดขึ้นซ้ำๆกัน ในช่วงเวลาหนึ่งระหว่างอดีตและปัจจุบัน โดยมักใช้คำว่า many/several
times, a lot of times, …times, again and again, over and over และอื่นๆ
เช่น
I’ve read this book more than 3
times. (ฉันอ่านหนังสือเล่มนี้มามากกว่าสามรอบแล้ว)
4.
ใช้กับเหตุการณ์ที่
เพิ่งสิ้นสุดลง โดยไม่ระบุเวลา ซึ่งมักใช้กับ just,
already และ yet
·
yet มักใช้ในประโยคปฏิเสธ
ส่วน just และ already นั้น
มักจะใช้กันในประโยคบอกเล่า โดยวางไว้อยู่หน้ากริยาหลัก เช่น
I haven’t finished my
homework yet. (ฉันยังทำการบ้านของฉันไม่เสร็จเลย)
I have just finished
my home work. (ฉันเพิ่งทำการบ้านของฉันเสร็จ)
I’ve already finished
my homework. (ฉันทำการบ้านของฉันเสร็จเรียบร้อยแล้ว)
·
หากเราระบุเวลาลงไป
ประโยคจะต้องใช้ Past Simple Tense เท่านั้น
ไม่สามารถใช้ Present Perfect Tense ได้ เช่น
I finished my homework at
7 o’clock. (ฉันทำการบ้านเสร็จแล้วตอนเจ็ดโมงเช้า)
5.
ใช้เพื่อบอกเล่าถึงเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นเร็วๆ
นี้ ซึ่งมักใช้กับ just,
recently, lately และอื่นๆ
The meeting has just started. (การประชุมเพิ่งจะเริ่มขึ้น)
Have you seen him lately? (คุณได้เจอเขาเมื่อเร็วๆนี้บ้างไหม)
6.
ใช้กับ
since (ตั้งแต่) และ for (เป็นเวลา)
I have been here since I was
about 15 years old.
ฉันอยู่ที่นี่มาตั้งแต่อายุ 15 (ปัจจุบันฉันก็ยังคงอยู่ที่นี่)
I have had a fever for almost a
week.
ฉันเป็นไข้มาประมาณอาทิตย์หนึ่งได้แล้ว (ปัจจุบันฉันก็ยังคงเป็นไข้อยู่เช่นเดิม)
She has
studied English since July.
หล่อนเรียน(แล้ว)ภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม (เรียนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ตอนนี้เดือนกันยายนแล้ว และมีแนวโน้มจะเรียนต่อไปอีก) He’s worked in the garden since 8 o’clock. เขาทำงาน(แล้ว)ในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า (ตอนนี้สิบโมงแล้ว มีทีท่าว่าจะทำต่อไป) It has rained for three hours. ฝนตก (แล้ว) เป็นเวลา 3 ชั่วโมง (และมีแววว่าจะตกต่อไปอีก) A boy has played football since 3 o’clock. เด็กชายเล่นฟุตบอล(แล้ว)ตั้งแต่ 3 โมง (ตอนนี้สี่โมงแล้ว น่าจะเล่นต่อถึงห้าโมงมั้ง)
I have
lived here for ten years.
ฉันอาศัยอยู่ (แล้ว) ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปี (จุดเริ่มต้นเกิดในอดีต ปัจจุบันก็ยังอยู่ที่นี่ อนาคตก็จะอยู่ต่อ)
You’ve
watched TV for two hours.
คุณดู(แล้ว)ทีวีเป็นเวลาสองชั่วโมง (ดูมาแล้วสองชั่วโมงและน่าจะดูต่อ ถ้าแม่ไม่ห้าม) We’ve walked for five hours. เราเดิน(แล้ว)เป็นเวลา 5 ชั่วโมง They have built the house since last year. พวกเขาสร้าง(แล้ว)บ้านตั้งแต่ปีที่แล้ว (ตอนนี้ก็ยังสร้างอยู่ และน่าจะสร้างต่อไปอีกหลายเดือนคงเสร็จ)
ประโยคปฏิเสธ
ประโยคปฏิเสธเอา
not มาต่อท้าย have / has ก็ได้แล้ว
have not ย่อเป็น hasn’t
has not ย่อเป็น hasn’t
She has not studied English
since July.
หล่อนไม่ได้เรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม
He hasn’t worked in
the garden since 8 o’clock.
เขาไม่ได้ทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้า
I have not lived here for ten
years.
ฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปี
คำถามที่ใช้กับตัวอย่างด้านบนส่วนมากจะขึ้นต้นด้วย
How long…….
(นานแค่ไหน)
How long has she studied English? หล่อนเรียนอังกฤษนานแค่ไหนแล้ว How long has he worked in the garden? เขาทำงานในสวนนานแค่ไหนแล้ว How long has it rained? ฝนตกนานแค่ไหนแล้ว How long has a boy played football? เด็กชายเล่นฟุตบอลนานแค่ไหนแล้ว How long have you lived here? (ถาม you ตอบ I) คุณอยู่ที่นี่นานแค่ไหนแล้ว How long have I watched TV? (ถาม I ตอบ You) ผมดูทีวีนานแค่ไหนแล้ว How long have we walked? เราเดินนานแค่ไหนแล้ว How long have they built the house? พวกเขาสร้างบ้านนานแค่ไหนแล้ว
ประโยคคำถาม
ให้เอา
have, has มาวางหน้าประธานของประโยค
Has she studied English
since July?
หล่อนเรียนภาษาอังกฤษ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมใช่ไหม Yes, she has./ No, she hasn’t.
Has he
worked in the garden since 8 o’clock?
เขาทำงานในสวนตั้งแต่ 8 โมงเช้าใช่ไหม Yes, he has./ No, he hasn’t.
Have you lived here for ten
years?
คุณอาศัยอยู่ที่นี่ เป็นเวลา 10 ปีใช่ไหม Yes, I have./ No, I havn’t.
ประโยคคำถามเชิงปฏิเสธ
Has she gone yet? หล่อนไปหรือยัง
Has he already finished his homework? เขาทำการบ้านเสร็จแล้วใช่ไหม Have you drunk milk yet? คุณดื่มนมหรือยัง Have we already eaten rice? พวกเรากินข้าวแล้วใช่ไหม Have they washed the car yet? พวกเขาล้างรถหรือยัง
กริยา 3 ช่องที่ใช้ในหน้านี้
|
ใบงานที่ 1
Exercise 1 Fill in the blanks with already or yet:
1.
He hasn’t called us ……………………………… .
2.
They have ………………………………… sent the letter.
3.
John has ……………………………… bought the tickets for the football match.
4.
We have ……………………………….. been to Mexico three times.
5.
You haven’t visited Tokyo ………………………………… .
6.
Has John bought a new car ………………………………….. ?
7.
The plane has …………………………… left.
8.
Has she done it …………………………….. ? No, not …………………………. .
9.
A: Haven’t they arrived ………………………………. ?
B: Oh, yes. They have
………………………………… arrived.
10.
Hurry up! The class has ……………………………… started.
Exercise 2 Ask questions with How long:
Example: I am married. -
How long have you been married?
1. I know Bob. ………………………………………………….
2. Sue and Alan are married. ………………………………………………….
3. George is unemployed.
…………………………………………………
4. Those books are here. …………………………………………………
5. Mary is at the airport.
………………………………………………….
6. My sister is ill.
…………………………………………………
7. She has got a bad cold.
………………………………………………….
8. Jan has long hair.
…………………………………………………
9. I have a yacht.
…………………………………………………
10.
They are in the restaurant. ………………………………………………….
Exercise 3 Put the verbs in the correct tense. Use the Present Perfect Tense:
1.
……………………….. Tim ………………………. (finish) his work yet?
2.
They ……………………………………. (just / go) out.
3.
…………………… you …………………………. (send) the letters yet?
4.
They ………………………………………. (not / see) the film yet.
5.
The train ……………………………………………… (just / arrive).
6.
………………………. you ……………………………. (ever / be) in a TV studio?
7.
They …......................................(help) us since five o’clock this
morning.
8.
I don’t know your friend Smith. I ….................................................(never
meet) him.
9.
Don’t ask me what spinach tastes like. I …............................................(not
try) eating it.
10.
He knows France very well. He …….....................................(spend) a
lot of time there.
11.
You can stop looking for my gloves. I….....................................(just/
find) them.
12.
I …......................................(write) the letter, so perhaps you
would post it of me.
13..................................................
….(you ever see) the ghosts?
14.
Billy ..................................................................….(not
write) to me since last Christmas.
15.
It ...................................................…..(not rain) here since
March.
Exercise 4 : Underline the correct verb.
1.
I (worked, have worked) for this company since 1980.
2 .The
weather (was, has been) bad since last Sunday.
3.
I (read, have read) this book already.
4.
Bancha and Damrong ( did not finish, have not finished) their homework yet.
5.
Kanya ( studied, has studied ) English in this school for six months.
6.
I ( saw, have seen ) this movie four times already.
7.
They ( lived, have lived ) in Phuket since 1982.
8.
Somchai ( worked, has worked) in Yala from 1978-1982.
9.
I (visited, have visited) that museum recently.
10.
(Did you finish, Have you finished) the work yet?
Exercise 5 Fill in the following sentences by using for or since
1.
They have been living in Madrid ....................... 1972.
2.
He has been in prison ....................... four years.
3.
He has known about the fact ....................... a long time.
4.
Conditions have changed a lot ....................... we were children.
5.
Our teacher has been very ill....................... the
last month.
6.
I haven't eaten anything ....................... twenty-four hours.
7.
In fact he is always very rude. We have been waiting for him .......................
half an hour.
8.
I have been trying to mend this old fashioned car....................... hours.
9.
He hasn't spoken to me even a word ....................... the last meeting.
10.
I haven't phoned him....................... a week.
